กิจกรรม 5 ส. ในที่พักอาศัย
1.
ห้องนอน
เป็นห้องที่สำคัญห้องหนึ่งในบ้าน
เนื่องจากเป็นสถานที่นอนหลับพักผ่อน เพื่อให้ร่างกายเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอ
ดังนั้น ห้องนอน เครื่องนอนที่สะอาดย่อมส่งผลต่อสุขภาพของผู้นอนโดยตรง
ดังนั้นการรักษาความสะอาดห้องนอน จึงควรกระทำอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อมิให้กลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค โดยสามารถนำกิจกรรม 5 ส. มาใช้ดังนี้
การสะสางเครื่องนอนมาทำความสะอาด
โดย
-
นำปลอกหมอน, ผ้าปูที่นอน, ปลอกหมอนข้าง,
ผ้าห่ม และผ้าคลุมเตียงไปซัก
-
ปลดผ้าม่านในห้องนอนออกมาซักทำความสะอาด หากซักไม่ได้
ให้นำไปตากแดดจัด
-
นำหมอนออกไปตบและตากแดดจัด
-
เก็บผ้าเช็ดเท้าทุกผืนไปซักให้สะอาด
-
ทำความสะอาดมู่ลี่ด้วยผ้าชุบน้ำ โดยรูดปิดม่านก่อน
จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำถูตั้งแต่ด้านบนลงมาด้านล่าง
-
คลุมฟูกนอนด้วยผ้าคลุมเตียงผืนใหม่
เพื่อป้องกันไรฝุ่นในขณะที่ปัดกวาดเช็ดถูห้องนอน
-
เตรียมน้ำอุ่น, ผ้าขนหนู, ผ้าไมโครไฟเบอร์,
ไม้ขนไก่, ไม้ปัดหยากไย่, ไม้กวาด, ม็อบถูพื้น, เครื่องดูดฝุ่น
และอุปกรณ์ทำความสะอาดอื่น ๆ ให้พร้อมลุย
-
กวาดหยากไย่
-
ปัดฝุ่นโดยไล่ตั้งแต่ชั้นบนลงมาชั้นล่าง อย่าลืมหลังตู้ต่าง ๆ
ด้วยนะคะ
-
ปัด กวาด เช็ด ถู ฝุ่นหยากไย่ให้หมดจด
-
ถอดผ้าคลุมเตียงออกไปซัก แล้วเปลี่ยนผ้าผืนใหม่อีกครั้ง
-
ขนเสื้อผ้าออกจากตู้เสื้อผ้า รวมทั้งของในลิ้นชัก และชั้นวางของ
ออกมาวางบนเตียง
-
ใช้ผ้าชุบน้ำทำความสะอาดตู้เสื้อผ้า, หลังตู้ ลิ้นชัก
และชั้นวางของ จากด้านในถึงด้านนอก
-
เช็ดทำความสะอาดของตกแต่งห้องนอน เช่น กรอบรูป, โคมไฟ,โต๊ะทำงาน, ชั้นวางหนังสือ, หนังสือ,
นาฬิกา รวมไปถึงลูกบิดประตูและสวิตช์ไฟด้วยผ้าชุบน้ำ
-
จัดเรียงของเข้าที่เดิม
-
รวบรวมเอกสารที่วางเรียงรายเข้าแฟ้ม
แยกหนังสือและแมกกาซีนเข้าชั้นหนังสือ
-
จัดเสื้อผ้าเข้าตู้
หรือจะถือโอกาสคัดแยกเสื้อผ้าเหลือใช้ไว้บริจาคและขายต่อก็ได้
-
หาที่เก็บเสื้อผ้านอกฤดูให้เรียบร้อย
โดยอาจจะเก็บลงกล่องสอดไว้ใต้เตียงก็ได้
-
รื้อชั้นวางทีวี ที่เก็บซีดี และดีวีดี ออกมาทำความสะอาด
-
ทำความสะอาดชั้นวางทีวีและทีวี
พร้อมจัดเก็บซีดีและดีวีดีเข้าที่เดิม
2.
ห้องครัว
เป็นห้องที่ใช้ประกอบอาหาร
หากไม่มีการรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เศษอาหารอาจตกค้าง
เป็นแหล่งอาหารของสัตว์พาหะนำโรคอย่างหนู แมลงสาบ ห้องครัวที่สะอาด
จึงส่งผลต่อสุขอนามัยของคนในบ้าน ซึ่งการนำกิจกรรม 5 ส.
มาใช้ในการรักษาความสะอาดห้องครัว สามารถปฏิบัติได้ดังนี้
-
ถอดหัวเตาออกมาทำความสะอาด ไม่ว่าจะเป็นเตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้า ส่วนมากเตาจะสามารถถอดประกอบได้
โดยใช้น้ำล้างจานผสมน้ำอุ่นและฟองน้ำขัดทำความสะอาด
แต่ในส่วนหัวเตาแนะนำให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดจนเกือบแห้งค่อย ๆ
เช็ดเศษสกปรกที่ตกค้างอยู่ให้หมดไป
-
ทำความสะอาดหน้าเตา หลังจากล้างส่วนเตาแล้วผึ่งให้แห้ง โดยใช้น้ำอุ่น, น้ำยาล้างจาน
และฟองน้ำนุ่ม ๆ ในการทำความสะอาด หากมีคราบมันฝังแน่นมาก ควรใช้เบ๊กกิ้งโซดาผสมน้ำส้มสายชูมาช่วยหมักคราบก่อนเช็ดออกด้วยฟองน้ำหมาด
-
จัดการปุ่มเปิดเตาปุ่มเปิดเตาที่เยิ้มไปด้วยคราบมัน
ให้ถอดออกมาแล้วทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานหรือน้ำสบู่ผสมน้ำอุ่น โดยใช้น้ำยาล้างจานที่ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนีย
เพื่อมิให้ปุ่มเตาแก๊สเกิดรอยด่างดำ
-
ทำความสะอาดปล่องดูดควัน โดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานเช็ดทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกปล่องดูดควันให้หมดจด
แล้วถอดฟิลเตอร์ปล่องดูดควันมาล้างด้วยน้ำยาล้างจานเดือนละ 1 ครั้ง
-
ทำความสะอาดเตาอบ โดยถอดตะแกรงออกมาแช่น้ำอุ่นผสมน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างจานประมาณ
1-2 ชั่วโมง
จากนั้นจึงใช้ฟองน้ำขัดทำความสะอาดตะแกรงก่อนนำไปผึ่งลมให้แห้ง แล้วผสมเกลือป่น ¼
ถ้วยตวง, เบ๊กกิ้งโซดา ¾ ถ้วยตวง และน้ำสะอาด ¼ ถ้วยตวง
โดยก่อนป้ายสวนผสมที่เตรียมไว้ให้ทั่วเตาอบ
ให้ใช้กระดาษฟอยล์หุ้มส่วนผังวงจรหรือส่วนที่ไม่ควรโดนน้ำให้มิดชิดก่อนจึงค่อยละเลงน้ำยาที่ผสมลงไป
ทิ้งไว้ข้ามคืน วันรุ่งขึ้นจึงเช็ดคราบออกด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาด
-
สะสางตู้เย็น โดยถอดปลั๊กตู้เย็นเพื่อความปลอดภัยแล้วเริ่มเคลียร์พื้นที่ตู้เย็นให้โล่ง
รวมทั้งถอดชิ้นส่วนที่ถอดได้ออกมาล้างด้วยน้ำยาล้างจาน แล้วผึ่งลมให้แห้ง
จากนั้นผสมเบ๊กกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ ¼ ถ้วยตวง สำหรับใช้เป็นน้ำยาล้างตู้เย็น
แล้วจัดการทำความสะอาดตู้เย็นด้วยฟองน้ำหรือผ้าขนหนูให้ทั่วทุกตารางนิ้ว
ตามด้วยเช็ดคราบออกด้วยผ้าชุบน้ำ ก่อนเช็ดพื้นที่ให้แห้งอีกครั้ง
แล้วนำชิ้นส่วนที่ถอดออกไปล้างกลับเข้าที่ตามเดิม
-
ทยอยนำอาหารเข้าตู้เย็น เมื่อคัดแยกอาหารเน่าเสียออกไปแล้ว
ให้คุณทยอยเก็บอาหารที่เหลือเข้าตู้เย็น
โดยก่อนแช่ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดคราบสกปรกและกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เกาะติดอยู่ออกไปให้หมดจด
พร้อมกันนั้นให้เทเบ๊กกิ้งโซดาใส่ถ้วยแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นเพื่อดับกลิ่นไม่พึงประสงค์
-
เช็ดช่องแช่แข็งให้สะอาด แม้ช่องแช่แข็งจะมีอุณหภูมิติดลบ
ดูเหมือนจะไม่มีความสกปรกเท่าไร ทว่าจุดอับกลับมีความสกปรกซ่อนอยู่ ฉะนั้นจึงควรทำความสะอาดด้วยการผสมน้ำ
1 ถ้วยตวง, น้ำยาล้างจาน 1 ช้อนชา และน้ำส้มสายชู 1 ช้อนชา ลงในขวดสเปรย์ เขย่าให้ส่วนผสมเข้ากัน
แล้วนำไปฉีดให้ทั่วช่องแช่แข็ง ทิ้งไว้สักพักแล้วค่อยเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ
ให้หมดจด เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและขจัดกลิ่นไม่พุงประสงค์
-
สะสางตู้เก็บของ โดยสะสางอาหารแห้งในตู้เก็บของให้โล่ง
คัดของหมดอายุและเหลือใช้ทิ้งไป จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดทำความสะอาด
ตามด้วยผ้าแห้งทันทีเพื่อป้องกันตู้เก็บของเป็นคราบน้ำ แล้วทยอยเก็บของเข้าตู้ดังเดิม
-
ทำความสะอาดเคาน์เตอร์ครัว
โดยเช็ดให้สะอาดทุกครั้งหลังการใช้งาน สำหรับการขจัดคราบฝังแน่นนั้น ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดสำหรับห้องครัว
โดยเลือกชนิดน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสมกับพื้นผิวเคาน์เตอร์
-
ขจัดคราบอ่างล้างจาน โดยผสมน้ำอุ่นจัดกับน้ำยาล้างจานแล้วใช้ฟองน้ำชุบทำความสะอาดให้ทั่วบริเวณอ่างล้างจาน
และต้มน้ำผสมน้ำยาล้างจานพร้อมทั้งน้ำส้มสายชูเล็กน้อย
รอจนน้ำเดือดจัดจึงนำไปเทลงท่อน้ำทิ้งของอ่างล้างจานทันที
เพื่อกำจัดสิ่งอุดตันและคราบมันที่ตกค้าง
-
ทำความสะอาดคราบน้ำด่างเป็นรอยบนก๊อกน้ำ คราบน้ำสีขาวที่ปรากฏอยู่บนก๊อกน้ำสามารถกำจัดได้ง่าย
ๆ ด้วยน้ำผสมน้ำส้มสายชูอย่างละครึ่ง จากนั้นนำผ้าขนหนูมาชุบก่อนนำไปเช็ดก๊อกน้ำให้ทั่ว
แล้วเช็ดอีกครั้งด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด
-
ทำความสะอาดเครื่องครัว เครื่องครัว
โดยสามารถทำความสะอาดตามวิธีในคู่มือการใช้งานของเครื่องครัวแต่ละชนิด ส่วนไมโครเวฟสามารถทำความสะอาดได้ง่าย
ๆ ด้วยการบีบน้ำมะนาวผสมน้ำเปล่า นำไปอุ่นในไมโครเวฟด้วยอุณหภูมิสูงนาน 1 นาที
จากนั้นใช้ฟองน้ำเช็ดคราบเปื้อนให้หมดจด
-
ปัดกวาดเช็ดถู ตามหลัก “สะอาด” เมื่อสะสางองค์ประกอบอื่น ๆ
ในห้องครัวเกือบครบแล้ว โดยให้ปัดฝุ่นทุกพื้นที่ เน้นตามมู่ลี่
จากนั้นจึงค่อยกวาดฝุ่นให้สะอาดหรือจะดูดฝุ่นแทนก็ได้ แล้วถูพื้นให้สะอาดด้วยไม้ม็อบ
-
นำขยะใส่ถุงดำ ปิดปากให้สนิท แล้วนำไปทิ้ง
3.
ห้องน้ำ
ห้องน้ำเป็นอีกห้องหนึ่งที่มีความสำคัญ ในการชำระล้างร่างกาย
ที่เปื้อนเหงื่อไคลมาตลอดทั้งวัน เนื่องจากห้องน้ำเป็นห้องที่มีความชื้นสูง
จึงอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราได้ง่าย
นอกจากนั้นพื้นห้องน้ำที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ อาจมีความลื่น
ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ลื่นล้มได้ ซึ่งการนำกิจกรรม 5 ส.
มาใช้ในการดูแลรักษาความสะอาดของห้องน้ำ สามารถปฏิบัติได้ดังนี้
-
ซักผ้าเช็ดเท้าตามหลัก “สะอาด”
ผ้าเช็ดเท้าที่วางอยู่หน้าห้องน้ำ รวมทั้งผ้าเช็ดมือ และผ้าม่านที่ประดับอยู่ เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและฝุ่นไรจำนวนไม่น้อย
ดังนั้นก่อนจัดการล้างห้องน้ำ ควรปลดม่าน ผ้าเช็ดมือ
และนำผ้าเช็ดเท้าไปซักทำความสะอาดให้เรียบร้อย
-
ย้ายของทุกอย่างออกจากห้องน้ำ ตามหลัก “สะสาง” โดยย้ายของทุกอย่างออกจากห้องน้ำให้หมด
ทั้งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายและของตกแต่งกระจุกกระจิก
รวมไปถึงการตกแต่งบางอย่างที่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้
-
ทำความสะอาดโถสุขภัณฑ์ โดยใช้น้ำยาทำความสะอาด
ราดลงบนโถสุขภัณฑ์ให้ทั่ว แต่หากไม่ต้องการใช้สารเคมีอันตราย ให้ผสมผงฟู 1
ช้อนโต๊ะ กับน้ำส้มสายชูและน้ำเปล่าในอัตราส่วน 75/25 –ทำความสะอาดฝ้าเพดาน
ตามหลัก “สะอาด” โดยปัดหยากไย่จากบนเพดาน ไล่ลงมาด้านล่าง
-
ทำความสะอาดกระจก โดยเช็ดกระจกด้วยน้ำยาเช็ดกระจกกับกระดาษหนังสือพิมพ์
ถูส่วนผนังด้วยแปรงขัด แต่หากเป็นผนังที่ติดวอลเปเปอร์
ให้หุ้มแปรงขัดด้วยผ้าชุบน้ำผืนหนา แล้วเช็ดถูผนังให้สะอาด
สำหรับคราบหนักควรใช้น้ำยาทำความสะอาดร่วมด้วย
-
ทำความสะอาดเคาน์เตอร์ โดยผสมน้ำสบู่กับน้ำอุ่นแล้วใช้แปรงสีฟันอันเก่าขัดตามซอกกระเบื้องบนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า
รวมทั้งพื้นที่แคบตรงอ่างล้างหน้าและก๊อกน้ำด้วย
แต่หากคราบสกปรกฝังแน่นอาจต้องใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำส้มสายชูให้พอเป็นเนื้อข้นเหนียว
ป้ายคราบสกปรกทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นจึงใช้แปรงสีฟันขัดอีกครั้ง
แต่สำหรับพื้นที่ของอ่างล้างหน้าและกระเบื้องเคาน์เตอร์
สามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดและฟองน้ำขัดถูได้
-
ทำความสะอาดด้านนอกโถสุขภัณฑ์ เริ่มจากการฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อหรือน้ำยาขจัดคราบอเนกประสงค์ลงไปให้ทั่วบริเวณด้านนอกโถสุขภัณฑ์
แล้วใช้ฟองน้ำบิดหมาดถูทำความสะอาดโดยรอบ แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด
-
ขัดโถสุขภัณฑ์ โดยใช้แปรงขัดด้ามยาวแบบปกติขัดถูด้านในโถชักโครกที่เทน้ำยาทำความสะอาดเอาไว้ในขั้นตอนแรก
แล้วล้างน้ำให้สะอาด
-
ทำความสะอาดพื้นห้องน้ำ โดยเทน้ำยาทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีก่อนขัด
หรือหากใช้น้ำยาฆ่าเชื้อล้างห้องน้ำ ควรราดน้ำยาทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาทีก่อนลงมือทำความสะอาด
ส่วนในร่องกระเบื้องที่สะสมคราบสกปรกไว้มาก ควรใช้แปรงสีฟันด้ามเก่าจุ่มน้ำยาฟอกขาว
แล้วนำมาขัดทำความสะอาดพื้น
-
เก็บของที่ไม่ได้ใช้ทิ้งไป ตามหลัก “สะสาง”
หลังจากทำความสะอาดพื้นห้องน้ำแล้ว
ควรใช้ม็อบหรือฟองน้ำซับน้ำออกอีกครั้ง
พร้อมทั้งเปิดพัดลมดูดอากาศไว้เพื่อป้องกันความชื้น จากนั้นจึงมาคัดแยกสิ่งของที่ย้ายออกมาจากห้องน้ำต่อ
โดยเลือกแต่เฉพาะของที่ยังใช้งานอยู่ไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วเก็บเข้าที่ ส่วนแปรงสีฟันอันเก่า
หลอดโฟมล้างหน้าที่ใช้หมดแล้ว ก็แยกนำไปทิ้งถังขยะ